Menu.Menu.
Interview
Fashion
Art & Design
Music
Movie
Social Issue
Culture
History
Interview
Fashion
Art & Design
Music
Movie
Social Issue
Culture
History
story
EQ
photographer
published
8.8.25
days-since-publication
Thai
English
View this post on Instagram

A post shared by EQ (@eq_archives)

View this post on Instagram

A post shared by EQ (@eq_archives)

สวรรค์นิมิตร : สวรรค์ในนิมิตรของ ‘แพรว‒ลักษณาพร’ คนทำสารคดีที่ขอให้ได้เกิดเป็นลูกสาว และอิ่มเอมไปด้วยน้ำ โดยบ่ต้องขอฝนจากเทวดาอีก

แพรว‒ลักษณาพร ทาระพันธ์ เป็นนักเรียนภาพยนตร์ที่สำเร็จการศึกษาเมื่อสี่ปีที่แล้ว ผู้กำลังเดินทางตามเส้นทางการทำหนังสารคดี เธอเกิดที่ยโสธร และย้ายมาเรียนและทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในกรุงเทพฯ  ที่ไม่นิยามตัวเองว่าเป็น ‘คนทำหนัง’ เพราะไม่อยากเป็นคนทำหนังที่ทำสารคดี แต่เธอขอเรียกตัวเองว่าเป็น ‘คนทำสารคดี’

ย้อนมองเส้นทางการทำงานกว่าจะมาเป็นสารคดีของแพรว มุมมองของแพรวต่อการทำสารคดีและภาพยนตร์ การค้นหาตัวตนและเสียงของผู้คนอันหลากหลายผ่านการทำสารคดี อีกทั้งแพรวยังแลกเปลี่ยนเรื่องราวส่วนตัวในครอบครัวที่เธอนำไปประกอบชิ้นส่วนจากความทรงจำและพิธีกรรมมรณานุสติที่เธอสร้างขึ้นมาเองจนกลายเป็นสารคดีที่อาจจะนิยามได้ว่า เป็นสารคดีลูกผสม (Hybrid Documentary) แต่เธอกล่าวว่า ‘สวรรค์นิมิตร’ (A Ride to Isaan Heaven) คือ ‘สารคดี’(Documentary)

still from A Ride to Isaan Heaven by Laksanapon Tarapan

สวรรค์นิมิตร

ภาพยนตร์ที่บอกเล่าภาพการตายและการเกิดใหม่ของคุณยายผ่านจินตนาการของหลานสาว แพรวนึกถึงชีวิตของคุณยายที่ความฝันถูกพรากไปเพราะความแร้นแค้นของชีวิตและการต้องทำหน้าที่เป็นแม่และเมียในครอบครัว การสูญเสียที่เกิดขึ้นนำพาไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ของชีวิตบนสวรรค์ สวรรค์ของคุณยายจะหน้าตาเป็นเช่นไร ชีวิตของผู้หญิงคนนี้จะงอกงามได้สวยงามเพียงใด เมื่อสวรรค์ไม่ใช่โลกความจริงที่ทำให้เธอต้องอยู่กับสิ่งที่สังคมมอบหมายให้ผู้หญิงคนหนึ่งต้องทำ หากปราศจากสิ่งเหล่านั้นเธอจะสามารถเป็นอะไรมากกว่านั้นได้หรือไม่?

ภายในเรื่องไม่เพียงแต่นำเสนอเรื่องราวส่วนตัวของผู้หญิงในครอบครัวของแพรว แต่รวมถึงแฝงภาพทับซ้อนของพิธีมรณานุสติและพิธีบุญบั้งไฟ พิธีที่ทำสืบเนื่องมาตามวิถีของชุมชนอีสานเพื่อขอให้พระเจ้าช่วยดลบันดาลชีวิตที่มีสุขให้ผู้คนกับพิธีกรรม หากแต่ภาพทับซ้อนนั้นยิ่งเผยให้เห็นว่าการขึ้นสู่สวรรค์ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาสัญญาจากพระเจ้า หากแต่สามารถเกิดขึ้นได้จากภายในตัวของเรา หรือ นิมิตร ที่นำพาไปสู่จุดที่เราต้องการมีชีวิตอย่างอิสระ

เริ่มสนใจทำสารคดีตั้งแต่ตอนไหน

แพรว : ตอนเราเรียนวิชาทำสารคดี เราทำไฟนอลเรื่อง ‘ด้วยรักถึงกุหลาบ’ ช่วงนั้นโควิดไปถ่ายข้างนอกไม่ได้ เลยมองหาจากรอบตัว ช่วงนั้นเราเป็นงูสวัด เราสังเกตว่าญาติฝั่งแม่มักจะโทรมาเช็คอาการเราบ่อยมาก จนค้นพบว่าเป็นเพราะเราเป็นโรคเดียวกันกับน้าที่เสียไป ซึ่งเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ที่ไม่มีใครอยากพูดถึง เราเลยเลือกทำเรื่องของน้ากุหลาบ เกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตของเธอครั้งตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ หลังจากที่ทำหนังแล้วมีคนมาดูแล้วเค้าบอกว่ารู้สึก relate กับเรื่องนี้ เคยสูญเสียใครสักคนที่บ้านเหมือนกัน ทำให้เรารู้ว่าเราชอบทำสารคดี ชอบทั้ง process ระหว่างที่ทำและหลังเอามาฉายทำให้ได้พูดคุยกับผู้คน ได้แชร์บางอย่างร่วมกัน

ทำไมสนใจทำสารคดีมากกว่าทำ fiction

แพรว : การทำสารคดี มันมีความรู้สึกของการ contribute อะไรบางอย่างร่วมกัน สารคดีทำให้เรารู้สึกว่าหนังเรื่องนั้นไม่ใช่ของเรา แต่เป็นการแชร์ร่วมกันกับทุกคนที่เข้ามามีส่วนร่วม วิธีการทำงานของแพรวคือเวลาเจอคนหรือเรื่องที่ต้องการจะถ่ายทอดผ่านสารคดีแล้ว จะตกลงกันก่อนว่าคนนั้นอยากถูกถ่ายทอดอย่างไรในหนัง เหมือนเป็นกระบวนการที่ร่วมสร้างอะไรบางอย่างด้วยกัน

อะไรที่ต้องขบคิดตอนทำสารคดี

แพรว : ที่ผ่านมา แพรวทำสารคดีที่เกี่ยวกับการสูญเสีย/ความทรงจำส่วนตัวที่เป็นลบ มันยิ่งทำให้ต้องขบคิดในกระบวนการพูดคุยมากขึ้น ขอบเขตแบบไหนที่เล่าแล้วคนนี้จะรู้สึกปลอดภัย เพราะเราไม่ใช่เจ้าของของเรื่องเล่า เราจะทำยังไงให้มันเป็นพื้นที่ปลอดภัย และ shared value ร่วมกันตลอดการทำสารคดี ไม่ใช่แค่การหยิบฉวยเรื่องนี้ การเดินทางแบบไหนที่เราจะไปด้วยกัน อย่างตัวแพรวเองไม่ได้เรียก subject ว่า subject แต่พวกเขาคือ contributor

“ความพิเศษของสารคดีคือได้คอนเนคกับคนและสร้างอะไรบางอย่างร่วมกัน”

The making of สวรรค์นิมิตร

แพรว : เริ่มต้นคือเราต้องทำหนังสั้นฟิคชั่น โดยเล่าผ่านตัวละครยาย ที่อิงจากยายของเรา ซึ่งนักแสดงในหนังก็มาจากคนที่มีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับยายจริง ๆ แล้วให้มาร่วมจัดงานศพให้ยายพร้อมกัน ลองให้พวกเขารีแอคกับสถานการณ์นั้น ๆ เล่นกับบุคคลจริงและเส้นเรื่องที่สร้างขึ้นมา โดยนำพิธีบุญบั้งไฟ ซึ่งเป็นพิธีขอฝนมาเล่าด้วย

ส่วนตัวเราคิดว่าประสบการณ์ใช้ชีวิตกับญาติพี่น้องที่เป็นผู้หญิงมันวุ่นวาย สนุกและอิ่มเอม เราเลยนึกถึงความเป็นฝน เพราะปกติขอฝนต้องขอจากเทพเจ้าบนสวรรค์

เราได้เขียนกลอนหนึ่งขึ้นตอนที่ส่งยายขึ้นสวรรค์ เพราะมีสิ่งนึงที่เราคิดได้ระหว่างการทำหนังเรื่องนี้คือ เรารู้สึกพอใจมากที่เกิดมาเป็นผู้หญิง ถ้าเลือกเกิดใหม่ ก็ขอเกิดเป็นลูกสาวเหมือนเดิม รู้สึก fulfill กับการเติบโตและรายล้อมมาด้วยคนเหล่านี้

‘ลูกขออธิษฐาน ขอพญาแถนโปรดเมตตา ดลบันดาลลูกข้าเป็นลูกสาว เป็นเอื้อย เป็นเเม่หญิง และอิ่มเอมไปด้วยน้ำโดยบ่ต้องขอฝนจากท่านอีก’

แพรว : ตอนนั้นตาอยากมีลูกชาย เขาก็พยายามมีกันมาเรื่อย ๆ จนมาถึงลูกคนสุดท้ายที่ก็ยังเป็นผู้หญิงอยู่ จากที่ได้พูดคุยกับยาย ยายไม่เคยเสียใจเลยที่สุดท้ายตัวเองให้กำเนิดลูกสาว 5 คน

สวรรค์นิมิตร คือการรวมพิธีกรรมมรณานุสติของยายกับพิธีบุญบั้งไฟ?  หรือช่วยเล่าโปรเสสได้ไหมว่าคิดอะไรในตอนนั้น

แพรว : ก็แค่คิดเล่น ๆ และพยายามประติดประต่อกัน เราเริ่มจากถ่ายพาร์ทพิธีกรรมก่อน ซึ่งในกระบวนการทำหนังพาร์ทนั้นก็ค่อนข้างผสมผสานวิธีการของสารคดีอยู่ เราเลยเอาห้วงความรู้สึกเหล่านั้นมารวมกันในหนัง

การส่งยายขึ้นสวรรค์ที่มีลูกสาวหลานสาวรายล้อม และการที่จะขอให้การเกิดใหม่ต่อไป ก็ยังขอให้ได้เกิดเป็นผู้หญิงเหมือนเดิม

แพรว : พาร์ทแรก (การเกิด) เป็นเรื่องของตัวเราที่ตั้งคำถาม เราใส่ท้องปลอมและชวนแม่กับยายคุยว่าตอนที่ตั้งท้องเป็นยังไง ซึ่งมาจากจินตนาการของเราที่นึกภาพตัวเองไม่ออกว่าจะเป็นแม่ยังไง เป็นการสารภาพกับที่บ้านเล็กน้อยว่า เราไม่ได้อยากมีลูก ส่วนพาร์ทกลาง เป็นพาร์ทที่ยายตายแล้วส่งขึ้นสวรรค์ ส่วนพาร์ทสุดท้ายเป็นความอยากจะสื่อสารกับยายที่ขึ้นสวรรค์แล้ว ทำบุญกรวดน้ำให้ผู้ล่วงลับแล้วก็อโหสิกรรมต่อกัน

still from A Ride to Isaan Heaven by Laksanapon Tarapan

ความเป็นหญิงในสารคดี'ส่วนตัว'

งานของแพรว ทั้งเรื่อง ด้วยรักถึงกุหลาบ และ สวรค์นิมิตร มีความเป็นหญิงในเรื่องเยอะมาก ทำไมสิ่งนี้ถึงออกมาในหนังได้อย่างเป็นธรรมชาติ

แพรว: เราโตมากับสภาพแวดล้อมที่มีผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ รู้สึกมีความทรงจำที่รายล้อมไปด้วยผู้หญิงเยอะ อย่างสารคดีเรื่องด้วยรักถึงกุหลาบ เป็นเรื่องเล่าพี่น้องผู้หญิงกล่าวถึงน้องสาวคนหนึ่งที่จากไป

ส่วนตอนที่ทำเรื่อง สวรรค์นิมิตร มันเริ่มมาจากเราเติบโตมากับยาย รู้สึกว่ายายหัวไวฉลาดและหัวก้าวหน้ามาก แต่ว่าสุดท้ายเค้าไม่มีโอกาสไปเรียนต่อ ต้องเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานอยู่บ้าน เราเลยจินตนาการว่าสวรรค์ของยายจะเป็นยังไง ชีวิตในฝันของยายจะเป็นประมาณไหน โดยเขียน scene คร่าว ๆ และชวนคนรู้จักในชีวิตยายมาจัดงานศพร่วมกันให้ยาย ส่งยายสู่สวรรค์

ผนวกกับยายมักจะมีส่วนร่วมในหนังนักเรียนเราเกือบทุกเรื่อง เราเลยอยากทำหนังให้ยาย หนังไฟนอลที่ต้องส่งอาจารย์เป็นชิ้นสุดท้าย

คิดว่าสารคดีต้องนำเสนอความจริงไหม

แพรว : เราตั้งคำถามกับความจริงในสารคดีนะ แค่การตั้งกล้องถ่ายมันก็เหมือนการเลือกเฟรมแล้ว อะไรคือความจริงที่แท้? เราว่าสารคดีคือการถ่ายทอดแก่นความเป็นจริงบางอย่าง เราเลยรู้สึกว้าวมากเวลาได้ดูสารคดีที่ถ่ายทอดภาพและเสียงในทางเลือกอื่น ๆ

แพรว : เราชอบแนว observational มาก ๆ มันถ่ายยาก อาศัยความอดทนที่จะอยู่ตรงนั้นนานจนเรา immerse ไปกับพื้นที่

นึกถึงหนังที่ชอบเรื่องหนึ่งคือใช้ subtitle สลับกับ footage ที่เป็น archive ซึ่งจะใส่ซับไม่ตรงกับฉาก ฟุตเทจของคนแอฟริกันที่โดนถ่ายในยุคอาณานิคม ไม่มีการ narrate ขึ้นแค่ subtitle และเป็นเสียงใน archive แล้วก็มี subtitle ที่ถามกับ subject ว่า ‘นี่คือท่วงท่าที่เธออยากถูกบันทึกไว้ไหม?’ ซึ่งเรารู้สึกมัน contrast กันได้น่าสนใจดี ประมาณว่าเวลาที่เราตั้งกล้องถ่ายอะไร หรือใครสักอย่างหนึ่ง เราไม่ได้คำนึงว่าคนคนนี้อยากถูกถ่ายมั้ย เป็นเรื่อง power

หลังจากที่ สารคดีเรื่อง ด้วยรักถึงกุหลาบ และ สวรรค์นิมิตร ออกมาสู่สาธารณะ เธอก็ได้พาเรื่องเล่าส่วนตัวและครอบครัวของเธอเดินทางไปพบกับผู้ชมมากหน้าหลายตา ทั้งในและต่างประเทศ 'ด้วยรักถึงกุหลาบ' ได้เดินทางไปฉายที่มาเลเซีย และโปรเจคภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเธอ 'ก่อนปะทุและบุบสลาย' ได้พาเธอไปเยือน Docs by the Sea (DBTS) โปรแกรมประจำปีระดับนานาชาติจาก In-Docs ที่ตั้งอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย โดยมุ่งเน้นพัฒนาผู้สร้างภาพยนตร์สารคดีชาวเอเชียผ่านห้องปฏิบัติการภาพยนตร์ (film labs) และเวทีการนำเสนอโครงการ (pitching forums)

เล่าถึงโปรเจคสารคดีที่กำลังทำอยู่ให้ฟังหน่อย

แพรว : ภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเรา ชื่อว่า ก่อนปะทุและบุบสลาย (Combusted and Destroyed) พูดถึงเรื่องประสบการณ์ของเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบ และความปลอดภัยของการอยู่แฟลต

เรื่องก็คือเราเติบโตมาในแฟลตที่พ่อเราเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐอยู่ในนั้น วันหนึ่งพ่อเราเล่าให้ฟังว่ามันมีกล้องแอบถ่ายอยู่ในห้องแฟลต

หลังจากนั้น เราเลยกลัวการอาบน้ำในห้องแฟลตของเราไปเลย และย้ายออกในท้ายที่สุด

เราเลยลองไปถามเด็กแฟลตคนอื่นว่าพวกเขาเคยได้ยินหรือประสบเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยไหม

หนังเรื่องนี้พาเราไปคอนเนคกับคนอื่น ๆ ก่อน ซึ่งเรารู้สึกว่าตรงนี้มันล้ำค่ามากเพราะมันทำให้เรารู้ว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียว อยากให้หนังเรื่องนี้ช่วยตั้งคำถามว่าจะทำยังไงให้แฟลตหรือสวัสดิการของรัฐมันดีขึ้นและปลอดภัยที่เด็ก ๆ และลูก ๆ ของเจ้าหน้าที่รัฐเหล่านั้นได้เติบโตขึ้น เพราะครอบครัวเป็นส่วนหนึ่งของเจ้าหน้าที่ และการอยู่แฟลตเป็นส่วนหนึ่งของคุณภาพชีวิต

แพรว: กระบวนการทำหนังเรื่องนี้ทรงคุณค่ากับเรามาก เราให้น้องที่อยู่ในแฟลตไปถ่ายฟุตเทจ แล้วมันเซอร์ไพรส์เรามากพอได้ฟุตกลับมา อย่างแก๊งเด็กผู้ชายมอปลาย พวกเขาถ่ายตอนไปเตะบอล ขับมอไซต์ กินหมูกระทะ หรือซ้อมยิงปืนกระสุนลมในบ้าน เหมือนพอเราเปิดแล้วได้รับอะไรกลับมาที่ไม่คาดคิด ซึ่งรู้สึกว่าตอนทำสารคดีควรเป็นแบบนั้น

เราคิดว่าเราอาจจะมีธงในใจได้ แต่ว่าสุดท้ายเราต้องรอดูและเปิดโอกาสว่าหนังจะพาเราไปยังไงได้บ้าง

‍‍

ก่อนปะทุและบุบสลาย (Combusted and Destroyed) เป็นโปรเจคที่ถูกเลือกให้ไปเทศกาลหนังที่ cannes เมื่อเดือน พฤษภาคมที่ผ่านมา ในโปรแกรม Short Film Corner ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากมูลนิธิหนังไทย

‍

แพรว : ตอนไปคานส์เรารู้สึกว่าดีที่ได้เห็นว่าหนังสารคดีโลกมันไปถึงจุดไหนหรือเรากำลังมีบทสนทนาอะไรกัน เราว่ามันคล้ายกันในเรื่องของ censorship การที่พูดถึงรัฐไม่ได้ หนังการเมืองก็จะขอทุนจากภาครัฐไม่ได้เหมือนกัน

เป็นเรื่องที่ชาวDOC ต้องสร้างคอมมูนิตี้ให้มันแข็งแกร่งคอยสนับสนุนกันและกัน

แปลว่าสารคดีมีอำนาจ รัฐถึงกลัวการให้ทุน?

แพรว:ความน่ากลัวของสารคดีคือมันเป็นเครื่องมือในการถ่ายทอดความจริงหรือชุดความคิดบางอย่างที่ sensitive หรือ ใช้เป็นเครื่องต่อต้านกับองค์กรบางกลุ่ม ซึ่งเรามองว่าสารคดีควรจะยืนหยัดในสิ่งที่ตัวเองจะเล่า น่าเศร้าที่มันมี struggle ตรงนี้ การทำสารคดีเป็นเรื่องที่ยาก และไม่ใช่แค่ในไทยแต่ทั่วโลก

และการที่คนจะทำสารคดีได้มันต้องรู้สึกกับประเด็นนั้นมาก ๆ เวลาไปฟัง director statement ใน pitching forum ของ Docs By the Sea มันเลยทัชใจเรามาก

จริง ๆ หนังสารคดีในพื้นที่อุษาคเนย์ (South East Asia) มักจะเกี่ยวกับ ความตาย และการสูญเสีย อย่างเรื่องหนึ่ง เขาเล่าเรื่องคนสองคนที่เป็นเกย์มีเซ็กส์กัน แล้วหนังมันเล่าบทสนทนาหลังจากมีเซ็กส์ คนหนึ่งเป็นทหารเล่ากับอีกคนหนึ่งสูญเสียคนในครอบครัวไปเพราะเผด็จการทหาร แล้วระหว่างเล่าอยู่ก็เป็นฉากเปลือยกายที่มันทำให้เห็นความเปราะบาง (vulnerable) ของมนุษย์ ซึ่งหนังฉายแค่ภาพพื้นที่ของห้องที่เกิดเหตุการณ์ที่พวกเขามีเซ็กส์กันเพียงเท่านั้น

หรืออีกเรื่องเป็นเรื่องของคนพม่าที่พ่อเป็นนักการเมือง แล้วช่วงนั้นเกิดรัฐประหาร แล้วพ่อเสียไป เล่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นและหลังจากการสูญเสีย แล้วเวลาฟังเรื่องแบบนี้มันเข้าใจ และมีความเชื่อมโยง(relate) กัน เพราะมันคล้ายกับบ้านเรา ประเด็นการโดนกดขี่จากรัฐ หรือ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากรัฐ

เราเลยรู้สึกว่า หนังของคนเอเชีย หรือโดยเฉพาะ South East Asia มันเต็มไปด้วยการต่อสู้และการสูญเสีย แต่มันเป็นสิ่งที่ยังต้องเล่าต่อเพราะมันเกิดขึ้นจริง

ถึงอย่างนั้น ทำไมถึงเลือกหยิบเรื่องธรรมดาสามัญมาเล่า ทำไมถึงคิดว่าเรื่องเล็กๆน้อยๆ มันเล่าได้ในสารคดี?

แพรว : เรารู้สึกว่าเราสนใจเรื่องของคนธรรมดา สมมติถ้าจะพูดถึงความยากจน เรื่องความตายกับการสูญเสียมันสามารถพูดถึงภาพใหญ่ได้ เรารู้สึกว่าเรื่องเล็กน้อยมันสำคัญ มนุษย์ต้องการเรื่องเล่าเพื่อเข้าใจชีวิต เราเลยสนใจเรื่องเหล่านี้ คนธรรมดา ชีวิตประจำวัน ที่มันเกิดขึ้นเพราะผลจากภาพใหญ่ หรือเรียกง่ายๆ คือ การเมืองของรัฐย่อมมีผลต่อเราทุกคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศนั้น ๆ

คิดว่าการทำสารคดีในไทยเป็นอย่างไรบ้าง

แพรว : เรารู้สึกว่าคนทำเยอะขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี Documentary Club พยายามเป็น information point มันมีความคึกคักมากขึ้น เรารู้สึกว่าช่วงนี้หรือหลังๆ มานี้มันมีการ explore คำว่าสารคดีกว้างมากขึ้น สารคดีอาจจะไม่ได้มีการจำแนกประเภทอะไร อย่างเราเคยถกกับเพื่อนว่าคำว่า hybrid / experimental documentary มันคืออะไร เราไป label มันเกินไปหรือเปล่า เพราะว่าสารคดีก็คือสารคดีในตัวของมันเอง

แพรว : ตอนนั้นมีการฉายทีสิสที่เป็นหนังสารคดีอยู่หลายเรื่อง ในเทศกาลกางจอ (เทศกาลฉายภาพยนตร์ปริญญานิพนธ์ของนิสิตภาคการภาพยนตร์และภาพนิ่ง คณะนิเทศศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) ก็มีคนพูดว่า “นี่มันไม่ใช่สารคดี” เราเลยกลับมาตั้งคำถามเหมือนกันว่าจริง ๆ แล้วคำว่า สารคดีคืออะไร?

still from A Ride to Isaan Heaven by Laksanapon Tarapan

‍

WATCH THE FULL FILM

‍Director Laksanapon Tarapan‍

Producers ‍

Chonnicha Taphumin

Laksanapon Tarapan‍

Director of Photography ‍

Panisa Khueanphet

Jenikaporn Piyarat‍

Editor Laksanapon Tarapan‍

Production Designer Chanoknan Panurang‍

Colorist Chinanang Tamrongtanakijakarn

Assistant Directors ‍

Dechbadin Phosri

Supapich Cherdsatirakul

Noramon Wanichkamolnant‍

Production Manager Naphat Ditkhachorn

‍

Read more
Interview
'อิ๋ง กาญจนะวณิชย์' ผู้กำกับที่ต่อสู้เพื่ออิสรภาพของวงการหนังไทย
Interview
แม่ ลูกสาว พี่น้อง เพื่อนหญิง : สำรวจคุณค่าและความหมายของความเป็นหญิง ผ่าน 5 คู่ 10 มุมมอง
“ผู้หญิงสามารถเป็นอะไรก็ได้ที่อยากเป็น” คือหลักการเฟมินิสม์ที่มีมาอย่างยาวนาน และเข้าใกล้ความเป็นจริงมากยิ่งขึ้น
Interview
การเดินทางจาก “นคร-สวรรค์” สู่เส้นทางของชีวิตที่ไม่มีสิ้นสุด ของโรส—พวงสร้อย อักษรสว่าง
จังหวะเวลาและชะตาในการไหลไปสู่เส้นทางชีวิต ซึ่งประกอบไปด้วยสิ่งที่เลือกและไม่ได้เลือก ‘โรส - พวงสร้อย อักษรสว่าง
Read more
Interview
'อิ๋ง กาญจนะวณิชย์' ผู้กำกับที่ต่อสู้เพื่ออิสรภาพของวงการหนังไทย
Interview
แม่ ลูกสาว พี่น้อง เพื่อนหญิง : สำรวจคุณค่าและความหมายของความเป็นหญิง ผ่าน 5 คู่ 10 มุมมอง
“ผู้หญิงสามารถเป็นอะไรก็ได้ที่อยากเป็น” คือหลักการเฟมินิสม์ที่มีมาอย่างยาวนาน และเข้าใกล้ความเป็นจริงมากยิ่งขึ้น
Interview
การเดินทางจาก “นคร-สวรรค์” สู่เส้นทางของชีวิตที่ไม่มีสิ้นสุด ของโรส—พวงสร้อย อักษรสว่าง
จังหวะเวลาและชะตาในการไหลไปสู่เส้นทางชีวิต ซึ่งประกอบไปด้วยสิ่งที่เลือกและไม่ได้เลือก ‘โรส - พวงสร้อย อักษรสว่าง
Archive
About Us
Collaborate with Us
Contact Us
Subscribe to EQ
Stay up to date with the latest stories
Thank you!
Oops! Something went wrong while submitting the form.