Menu.Menu.
Interview
Fashion
Art & Design
Music
Movie
Social Issue
Culture
History
Interview
Fashion
Art & Design
Music
Movie
Social Issue
Culture
History
story
Natcha M.
photographer
published
25.12.24
days-since-publication
Thai
English
View this post on Instagram

A post shared by EQ (@eq_archives)

View this post on Instagram

A post shared by EQ (@eq_archives)

อบอุ่นหัวใจในวัน (ไม่) หนาว กับ 7 ภาพยนตร์ non-English ที่ต้องเพิ่มใน Watch List คริสต์มาส-ปีใหม่

It's beginning to look a lot like Christmas

ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหน บรรยากาศรอบด้านก็เต็มไปด้วยสีเขียวและแดง ต้นสน ซานต้าคลอส กวางเรนเดียร์ บ่งบอกว่าเราได้เข้าสู่ช่วงเทศกาลคริสต์มาส ตามด้วยปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วัน แน่นอนว่าเมื่อได้หยุดพักผ่อนในบรรยากาศดี ๆ แบบนี้ เราหลายคนก็คงนึกถึงหนังอมตะอย่าง Home Alone, A Christmas Carol, Love Actually ฯลฯ ที่ตลก โรแมนติก และสดใส แต่หากใครอยากเปลี่ยน Mood มาดูหนังแนวอบอุ่นหัวใจที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ และไม่ใช่หนังคริสต์มาสตามขนบ ทางเราขอแนะนำให้เอนตัวนอนสบายๆ พร้อมขนมกับเครื่องดื่มที่ชอบ และรับชมภาพยนตร์ที่เราขนมาให้เลือกกันเลย 

Amélie (2001)

“เธออาจจะพยายามอย่างมากในการแก้ปัญหาให้ชีวิตคนอื่น แล้วปัญหาของเธอ ชีวิตที่ยุ่งเหยิงของเธอล่ะ? ใครจะเป็นคนแก้มัน”

ภาพหญิงสาวผมบ๊อบสีดำเหยียดยิ้มสุดมุมปากนี้ยังคงเป็นไอคอนที่ไม่ตายหายไปไหน และจะเป็นเช่นนี้ไปอีกนาน ‘Amélie’ นับเป็นเรื่องที่คอภาพยนตร์หลาย ๆ คนอาจจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว เหมาะกับการเป็น Comfort movie ที่จะวนกลับมาดูกี่ครั้งก็ยังสนุกเหมือนเดิม ด้วยเสน่ห์ที่เต็มไปด้วยความแสบซนอันบริสุทธิ์ของ ‘เอมิลี ปูแลง’ (รับบทโดย ออเดรย์ ตอตู) สาวน้อยชาวฝรั่งเศสผู้มีชีวิตเรียบง่ายแต่ไม่ธรรมดา ทุกสิ่งทุกอย่างหล่อหลอมให้เธอเติบโตมาเป็นผู้ที่ใหญ่ที่ยังคงมีเด็กน้อยในหัวใจ ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงพาให้เราได้เฝ้ามองเส้นทางการตามหาและส่งต่อความสุขของเอมิลี ตั้งแต่ที่เธอค้นพบกล่องปริศนาในอพาร์ทเม้นท์และต้องการพบกับเจ้าของของมัน เธอจึงได้เข้าไปพัวพันกับชีวิตของผู้คนมากมาย ซึ่งทั้งป่วนและโรแมนติกอย่างเป็นเอกลักษณ์ ในแง่หนึ่ง การที่เอมิลีมุ่งมั่นกับการค้นหาความสุขให้ตัวเองก็เป็นการเดินทางที่เชื่อมโยงกับพวกเราหลายคนที่หันมาโฟกัสกับตัวเอง พยายามแก้ไขสิ่งที่ค้างคา และเริ่มต้นชีวิตใหม่ คล้ายกับที่เรามักจะเป็นกันช่วงสิ้นปี

คำพูดเพียงไม่กี่คำอาจจะไม่สามารถอธิบายผลงานชิ้นนี้ของ ‘ฌอง-ปิแอร์ เจอเน็ต’ ได้ทั้งหมด เพราะมันทั้งน่ารัก ขบขัน พิลึกพิลั่น และอบอุ่นหัวใจไปในคราวเดียวกัน เพราะอย่างนี้เอง มันจึงเป็นหนึ่งในหนังคลาสสิกที่จะถูกพูดถึงอยู่เสมอ ไม่ว่าจะปีไหนก็ตาม

Goodbye, Lenin! (2003)

“อนาคตนั้นอยู่ในมือของพวกเรา ทั้งไม่แน่นอนและเต็มไปด้วยความหวัง”

หนังเยอรมันเรื่องนี้อาจจะไม่เป็นที่คุ้นหูกันในหมู่คนไทย อาจด้วยความที่มันเป็นหนังนอกกระแสซึ่งมีรอบฉายน้อยเหลือเกิน แต่เรื่องราวที่ถ่ายทอดออกมาก็กินใจผู้คนเป็นจำนวนมาก จนกวาดรางวัลมาได้อย่างสมเกียรติของผู้กำกับ ‘วูล์ฟกัง เบ็คเกอร์’ ภาพยนตร์พาเราย้อนกลับไปสู่ปลายยุค 80 ถึงต้น 90 อันเป็นช่วงล่มสลายของกำแพงเบอร์ลินที่กั้นประเทศฝั่งตะวันออกและตะวันตกเอาไว้ มันอาจจะเป็นข่าวดีสำหรับใครหลายคน แต่ไม่ใช่สำหรับแม่ของ ‘อเล็กซ์ เคอร์เนอร์’ (รับบทโดย แดเนียล บรูห์ล) ผู้เชื่อมั่นในพรรคสังคมนิยมตั้งแต่ที่สามีหนีจากไป เธอเคยหัวใจวายจนตกอยู่ในภาวะโคม่าไปแล้วครั้งหนึ่งตอนที่เห็นอเล็กซ์ถูกทำร้ายในขบวนประท้วงรัฐบาล และหากหัวใจวายอีกครั้งก็อาจถึงแก่ชีวิต อเล็กซ์จึงจะให้แม่รู้ไม่ได้เด็ดขาดว่าเยอรมนีทั้งสองฟากรวมเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว เขาจำเป็นต้องสร้างสถานการณ์ต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่อตบตาให้แม่เชื่อเช่นนั้น มันจึงเป็นความตลกที่แฝงไปด้วยสถานการณ์บ้านเมืองและความแตกต่างทางแนวคิดของผู้คน ถึงอย่างนั้นก็ยังซึ้งกินใจ ต่อให้มีความเข้าใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เยอรมันเพียงเล็กน้อยก็สามารถอินไปด้วยได้

ข้อความต่อไปนี้อาจจะเป็นการสปอยล์เล็กน้อย (สามารถข้ามไปได้) แต่การที่อเล็กซ์ก้าวไปข้างหน้าและปล่อยให้แม่ของเขาได้ขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้าก็ชวนให้เรารู้สึกปล่อยวางตาม ถือว่าเป็นซีน ‘ปลดล็อก’ ที่สมบูรณ์แบบ ชวนให้เราคิดตามว่าในปีนี้ได้ข้ามผ่านอะไรมาแล้วบ้าง หากยังนึกไม่ออกหรือทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะกว่าอเล็กซ์จะผ่านมันมาได้ก็ต้องใช้เวลาเช่นกัน

Chungking Express (1994)

“ถ้าเราสามารถอัดความทรงจำไว้ในกระป๋องได้ มันจะมีวันหมดอายุไหมนะ? ถ้าเป็นอย่างนั้น ผมก็หวังว่ามันจะอยู่ได้เป็นร้อย ๆ ปี”

ต่อให้ไม่ใช่สาย “หนังหว่อง” (หนังของผู้กำกับ ‘หว่อง กาไว’) ก็คงจะเคยเห็นภาพใบปิดของภาพยนตร์เรื่องนี้ผ่านตากันมาบ้าง เพราะมันทั้งสวยงามและถ่ายทอดความเหงาของผู้คนในเมืองใหญ่ซึ่งเป็นธีมหลักของเนื้อเรื่องได้เป็นอย่างดี เริ่มต้นจากการที่ ‘223’ (รับบทโดย คาเนชิโระ ทาเคชิ) สารวัตรนายหนึ่งผู้อกหักและเผลอไปตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่ง โดยไม่รู้เลยว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการค้ายาเสพติด ก่อนที่จะบังเอิญชนกับ ‘เฟย์’ (รับบทโดย หว่อง เฟย์) พนักงานร้านอาหารที่ ‘663’ (รับบทโดย เหลียง เฉาเหว่ย) ตำรวจอีกนายหนึ่งเป็นลูกค้าประจำ ผู้ซึ่งอกหักจากแฟนสาวมาเช่นกัน การได้พบปะกันบ่อยครั้งนี้เองที่ทำให้เฟย์แอบรัก 663 อยู่ข้างเดียว และแอบเข้าไปทำความสะอาดห้องของเขา ตลอดทั้งเรื่อง เราจะสังเกตเห็นถึงความเป็นเมืองใหญ่ที่ผู้คนมีปฏิสัมพันธ์กันเพียงเล็กน้อย มีเพลงในตำนานเปิดวกไปวนมาตามสถานที่ต่าง ๆ ไปจนถึงแสงสียามกลางคืนที่ทำให้ความโรแมนติกแบบเหงา ๆ ก่อตัวขึ้น คล้ายกับช่วงสิ้นปีในเมืองใหญ่ที่มีของประดับอยู่ตามห้างสรรพสินค้ามากมาย ทั้งสวยงามและชวนให้อ่อนไหว อย่างไรก็ตาม ‘Chungking Express’ ถือว่าเป็นหนังรักอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาด เพราะเพียงแค่มองงานภาพที่ใช้สีเล่นกับอารมณ์ของผู้ชมอย่างชาญฉลาดก็คุ้มค่าแล้ว

Words Bubble Up Like Soda Pop (2021)

“ความรักก็เหมือนน้ำอัดลมที่เข้ามาราวกับฟองฟู่”

เรียกได้ว่าเหมาะเป็นอย่างยิ่ง หากชื่นชอบอนิเมชั่นและเคยดู ‘Your Lie in April’ มาก่อน เพราะ ‘Words Bubble Up Like Soda Pop’ นั้นผ่านการกำกับโดย ‘อิชิกุโระ เคียวเฮ’ และใช้ทีมผู้สร้างเดียวกันในการรังสรรค์ผลงานแสนจะสดใส แถมยังชวนให้รู้สึกเหมือนมีฟองซ่าๆ อยู่ในหัวใจ (รับรองว่าไม่ทำลายตับเหมือนกับคำโกหกในเดือนเมษาแน่นอน) ความน่ารักนี้เริ่มต้นที่การบังเอิญชนกันของ ‘เชอร์รี’ หนุ่มน้อยอินโทรเวิร์ตผู้คลั่งใคล้กลอนไฮกุ และ ‘สไมล์’ สตรีมเมอร์ที่สวมมาส์กตลอดเวลาเพราะไม่มั่นใจในฟันกระต่ายของตัวเอง มันจึงเป็นความรักที่หนุ่มสาววัยรุ่นสองคนได้มาเติมเต็มโพรงในใจให้กัน เพียงแค่ดูเทรลเลอร์ เราก็สัมผัสได้ถึงเสน่ห์ของหน้าร้อนตามฉบับญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นงานมัตสึริ ดอกไม้ไฟ ไซเดอร์รามุเนะ และเพลง City pop อัดแน่นด้วยสีสันและความใจฟูที่เบาสมอง ดูไม่ยาก

นอกจากเลิฟไลน์ที่เป็นจุดเด่นของเนื้อเรื่องแล้ว การนำเอากลอนหรือแผ่นเสียงไวนิลเข้ามาเป็นองค์ประกอบก็ยังเสริมความ Nostalgia ทำให้ผู้ชมอย่างเราๆ หวนนึกถึงช่วงก่อนที่สมาร์ทโฟนจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิต เรื่องราวของมิตรภาพไม่จำกัดช่วงวัยระหว่างตัวละครหลักกับเหล่าผู้ใหญ่ในร้านแผ่นเสียงเองก็สวยงาม นักเขียนเองก็ยังจำความรู้สึกหลังดูอนิเมชั่นเรื่องนี้จบเป็นครั้งแรกได้ว่าประทับใจ ถึงแม้ว่าจังหวะการเล่าเรื่องจะไม่กระชับ มีความเนิบ แต่ก็เป็นจังหวะที่ถูกต้องและเหมาะสมแล้ว สำหรับเรื่องราวสบายๆ ที่ไม่ว่าดูอีกกี่ครั้งก็ยังอิ่มอยู่ในอก

Lighting Up The Stars (2022)

“หนูรู้นะ พี่หลอกหนูมาตลอด หนูจะไม่ได้เจอยายจ๋าอีกแล้ว แต่ว่าหนูไม่กลัวหรอก เพราะตอนนี้หนูมีพ่อแล้ว”

ถ้ากำลังมองหาหนังสักเรื่องที่สามารถเปิดดูกับครอบครัวได้โดยไม่ตะขิดตะขวงใจ เรื่องนี้ก็ถือว่าเหมาะมากทีเดียว ‘Lighting Up The Stars’ เล่าเรื่องของ ‘ซานเหม่ย’ (รับบทโดย จู อี้หลง) ลูกชายคนเล็กที่กำลังเข้าสู่ช่วงสืบทอดธุรกิจรับจัดพิธีศพของครอบครัว ด้วยความที่ยังไม่ได้รับการยอมรับจากพ่อ และยังถูกแฟนสาวนอกใจ ชีวิตของเขาที่กำลังอยู่ท่ามกลางพายุลูกใหญ่ก็ได้พบ ‘เสี่ยวเหวิน’ (รับบทโดย หยาง เอ็นหยู) เด็กน้อยที่เห็นคุณยายของตนอยู่ในกล่อง (โลงศพ) และถูกนำขึ้นไปบนรถตู้ เธอจึงตามรถคันนั้นมาจนถึงบ้านของซานเหม่ย โดยไม่รู้เลยว่าคุณยายได้ถูกเผาและลอยขึ้นฟ้าไปเป็นดวงดาวเสียแล้ว ถึงแม้ว่าเนื้อเรื่องจะเป็นตัวเค้นน้ำตา ก็นับว่าเป็นน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างคุ้มค่าทุกหยด เพราะ ‘หลิง เจียงเจียง’ ได้เล่าถึงความเป็นครอบครัวทั้งในและนอกสายเลือดได้อย่างลึกซึ้งกินใจ แถมยังตอกย้ำถึงประเด็นสังคมอย่างสิทธิการเลี้ยงดูและคุณภาพชีวิตของเด็กอีกด้วย ที่สำคัญที่สุด ภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้เราได้เข้าใจถึงความหมายของคำว่า ‘Found family’ อย่างแท้จริง เพราะครอบครัวที่มีความผูกพันทางจิตใจนั้นไม่จำเป็นต้องมีเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกันเลย หากใครมีครอบครัวนอกสายเลือดอย่างในหนัง เรื่องนี้ก็เหมาะมากในการดูด้วยกันช่วงวันหยุดสิ้นปีนี้

Our Little Sister (2016)

“เธออยู่ที่นี่ได้นะ อยู่ด้วยกันตลอดไป”

สำหรับสายหนังรางวัล บอกเลยว่าภาพยนตร์ของ ‘ฮิโรคาสุ โคเรเอดะ’ จะไม่ทำให้คุณผิดหวังเลยสักเรื่อง โดยอย่างยิ่ง ‘Our Little Sister’ ที่แฝงไปด้วยปรัชญาชีวิต การมีอยู่ และความตาย (อย่าเพิ่งตกใจกันไป มันไม่ชวนหดหู่อย่างที่คิด) เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นจากการที่พ่อของสามสาวพี่น้อง ‘ซาจิ’ (รับบทโดย อายาเสะ ฮารุกะ) ‘โยชิโนะ’ (รับบทโดย นากาซาวะ มาซามิ) และ ‘จิกะ’ (รับบทโดย คาโฮะ) ได้เสียชีวิตลง พวกเธอจึงเดินทางไปเข้าร่วมพิธีศพ และพบกับ ‘ซึสึ’ (รับบทโดย ฮิโรเสะ ซึสิ) น้องสาวต่างมารดาผู้คอยดูแลพ่อจนหมดลมหายใจ ด้วยความเอ็นดูน้องที่อายุห่างกันราวกับลูก ซาจิผู้เป็นพี่สาวคนโตจึงชวนให้เธอมาอยู่ที่คามาคุระด้วยกัน การอาศัยร่วมกับพี่สาวทั้งสามที่บุคลิกและนิสัยต่างกันจึงทำให้ซึสิได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ และเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ทั้งอบอุ่น หวานหอม และอมขมอยู่เล็กน้อย นอกจากเนื้อเรื่องและไดอะล็อกที่ชวนให้ฉุกคิดอยู่เสมอแล้ว องค์ประกอบของหนังเรื่องนี้ก็ยังแฝงไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นในทุกๆ วินาที ทั้งในด้านสังคม ประเพณี และสไตล์การดำเนินเรื่องที่เอื่อยเฉื่อยแต่กลับไม่น่าเบื่อ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

คงต้องขอเสริมเล็กน้อยว่า หากใครชื่นชอบภาพยนตร์ของผู้กำกับโคเรเอดะ พลาดไม่ได้เลยกับ ‘Lessons from a Calf’ (Mou Hitotsu No Kyouiku) หนังกึ่งสารคดีเรื่องแรกของเจ้าตัวที่ได้ไปสัมภาษณ์เด็กๆ ชั้นประถมผู้เข้าร่วมโปรแกรมเลี้ยงลูกวัว ตั้งแต่เด็กจนเติบโตเป็นวัววัยผู้ใหญ่เต็มตัว การมีสัตว์เลี้ยงแสนพิเศษร่วมกันนี้ทำให้เด็กทุกคนได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างที่เป็นความรู้นอกห้องเรียน ซึ่งนอกจากจะมีประโยชน์แล้วก็ยังมีคุณค่าทางจิตใจ อาจจะหาดูยากสักหน่อย แต่ขอรับประกันความอิ่มเอมที่จะได้รับเมื่อลองเปิดใจดู

Seasons Change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย (2006)

“เราอยู่กับลูกไปไม่ได้ตลอด แต่สิ่งที่เขาชอบจะอยู่กับเขาไปตลอดชีวิต”

ถ้าคุณชื่นชอบที่จะหวนนึกถึงวัยเยาว์ วงดนตรี และความเป็นรอมคอมยุค 2000 ‘Seasons Change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย’ ก็เป็นเรื่องที่ต้องหยิบขึ้นมาดูสักครั้ง หรือหากเคยดูแล้วก็คงดูใหม่ซ้ำ ๆ ได้ไม่เบื่อ เพราะกลิ่นอายของชีวิตวัยรุ่นที่เต็มไปด้วยมิตรภาพและความฝันก็ยังเป็นของหวานจานโปรดสำหรับใครหลาย ๆ คน ซึ่งจานนี้ถูกรังสรรค์โดย ‘นิธิวัฒน์ ธราธร’ ให้เราได้ลิ้มชิมรสชาติของการเป็นนักเรียนดนตรี ผ่าน ‘ป้อม’ (รับบทโดย วิทวัส สิงห์ลำพอง) เด็กชายผู้ตัดสินใจเรียนต่อชั้นมัธยมปลายที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในขณะที่ปล่อยให้พ่อแม่เข้าใจว่าตนเรียนสายเตรียมแพทยศาสตร์ เพราะทั้งสองคนไม่อยากให้ลูกเป็น “นักดนตรีไส้แห้ง” อย่างที่ใครเขาว่ากัน และการเข้ามาเรียนที่วิทยาลัยดนตรีก็ทำให้ป้อมได้ใกล้ชิดกับ ‘อ้อม’ (รับบทโดย ชุติมา ทีปะนาถ) ลูกสาวของเพื่อนพ่อที่มีเซ้นส์ด้านดนตรีเป็นเลิศ ‘ดาว’ (รับบทโดย ยุวทิพย์ อาระยานิมิตสกุล) สาวน้อยนักไวโอลินที่เขาแอบรัก และ ‘เฉด’ กับ ‘ฉัตร’ (รับบทโดย รัชชุ สุระจรัส และ เฉลิมพล ตันติ์ทวิสุทธิ์) สองหนุ่มที่ชักชวนป้อมให้เข้ามาอยู่วงดนตรีเดียวกันเพื่อเข้าประกวด ชีวิตมัธยมปลายของป้อมจึงเต็มไปด้วยเสียงดนตรี ความรัก ความฝัน มิตรภาพ และครอบครัวที่คอยส่งกำลังใจให้เขาอยู่ไม่ขาด ทั้ง Feel good และตลกจนย้อนกลับมาดูได้เรื่อยๆ เลยทีเดียว หากจะบอกว่าเป็นหนังที่เปิดดูเมื่อไหร่ก็ได้ ก็ไม่ผิด เพียงถ้าได้ดูกับใครสักคนตอนสิ้นปีก็คงสนุกและชวนให้คิดถึงอีกเท่าตัว

เกือบทั้งหมดที่ลิสต์มานี้สามารถหาดูได้ไม่ยาก ผ่านทางสตรีมมิ่งอย่าง Netflix และ Prime Video รับรองได้เลยว่าจะต้องมีสักเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่กลายเป็นเรื่องโปรด และชวนให้ย้อนกลับไปดูเพื่อกอบโกยเอาความรู้สึกระหว่างรับชมกลับมาอีกครั้ง ทางนักเขียนเองก็หวังว่าทุกคนจะได้ใช้ช่วงวันหยุดนี้ไปกับหนังดี ๆ สักเรื่องหนึ่ง อย่างที่นักเขียนเองก็รู้สึกอิ่มเอมและผ่อนคลายระหว่างที่ไล่ดูภาพยนตร์เหล่านี้แบบมาราธอน แม้จะมีทุกข์ปนสุข หวานปนขม หรือไม่ได้จบด้วย Happy ending ไปเสียหมด มันก็คงเติมเต็มความรู้สึกให้เราได้ไม่มากก็น้อย ว่าแล้วก็อย่าลืมไปดูกัน – Merry Christmas & Happy New Year

‍

Read more
Movie
‘Mongrel’ ภาพสะท้อนการต่อสู้กันของ ศีลธรรม ความอยู่รอด และความหวังอันริบหรี่ในชีวิต ‘ผีน้อย’
ชวนตีความ 'Mongrel' ภาพยนตร์สะท้อนชีวิตแรงงานข้ามชาติไทยในไต้หวันกับบทบาท caretaker ของ อุ้ม-วัลลภ รุ่งกำจัด
Movie
“ชีวิตจริงรอเราอยู่!” ตามหาคำตอบของชีวิตที่เล็กจ้อยและยิ่งใหญ่ ผ่านหนัง 4 เรื่องสุดเรียบง่าย
วันนี้ EQ อยากพาสำรวจหนังในธีมการเดินทางค้นหาไขคำตอบของคำถามระดับอภิมหาจักรวาลปรัชญานี้กัน! 
Movie
5 หนังแนว ‘Cosmic Horror’ กับแนวคิด ‘Nihilism’ เมื่อมนุษย์เป็นแค่สิ่งเล็กๆ ในจักรวาล
วันนี้เราจะพาทุกคนไปสำรวจแนวคิด Nihilism ที่ซ่อนอยู่ในหนัง Cosmic Horror ทั้ง 5 เรื่อง แล้วมันแย่จริงอย่างที่หลายคนบอกมั้ย?
Read more
Movie
‘Mongrel’ ภาพสะท้อนการต่อสู้กันของ ศีลธรรม ความอยู่รอด และความหวังอันริบหรี่ในชีวิต ‘ผีน้อย’
ชวนตีความ 'Mongrel' ภาพยนตร์สะท้อนชีวิตแรงงานข้ามชาติไทยในไต้หวันกับบทบาท caretaker ของ อุ้ม-วัลลภ รุ่งกำจัด
Movie
“ชีวิตจริงรอเราอยู่!” ตามหาคำตอบของชีวิตที่เล็กจ้อยและยิ่งใหญ่ ผ่านหนัง 4 เรื่องสุดเรียบง่าย
วันนี้ EQ อยากพาสำรวจหนังในธีมการเดินทางค้นหาไขคำตอบของคำถามระดับอภิมหาจักรวาลปรัชญานี้กัน! 
Movie
5 หนังแนว ‘Cosmic Horror’ กับแนวคิด ‘Nihilism’ เมื่อมนุษย์เป็นแค่สิ่งเล็กๆ ในจักรวาล
วันนี้เราจะพาทุกคนไปสำรวจแนวคิด Nihilism ที่ซ่อนอยู่ในหนัง Cosmic Horror ทั้ง 5 เรื่อง แล้วมันแย่จริงอย่างที่หลายคนบอกมั้ย?
Archive
About Us
Collaborate with Us
Contact Us
Subscribe to EQ
Stay up to date with the latest stories
Thank you!
Oops! Something went wrong while submitting the form.